วันอังคารที่ 18 มิถุนายน พ.ศ. 2556

เคล็ดลับการเทสต์เครื่องสำอางค์

เคล็ดลับการเทสต์เครื่องสำอางค์


 

บทความน่ารู้ เรื่องเคล็ดลับการเทสต์เครื่องสำอาง

ที่นี่คือศูนย์รวมบทความที่น่าสนใจและให้ความรู้จากทุกมุมโลก เพื่อเป็นแหล่งความรู้สำหรับคนไทยทุกคน
มีสาว ๆ หลายคนที่โชคดี ที่ได้ลองเครื่องสำอางแล้วก็ได้พบเครื่องสำอางที่เข้ากับตัวเองราวกับเกิดมาเพื่อกันและกัน อย่างรองพื้นที่เนียนกริบและพอดีกับสีผิวเป๊ะ หรือมาสคาร่าที่ช่วยให้ขนตางอนงามเด้งได้ตลอดวัน แต่ก็ยังมีสาว ๆ ผู้ที่โชคไม่เข้าข้างอีกส่วนหนึ่ง ที่ยังหาเครื่องสำอางที่เกิดมาเพื่อกันและกันไม่เจอสักที หรือคนที่อยากจะเปลี่ยนไปใช้เครื่องสำอางยี่ห้ออื่นบ้างแต่ก็ไม่รู้ว่าจะเลือกอย่างไรให้เข้ากับตัวเอง เพื่อปลอบใจสาว ๆ ที่ยังหาเครื่องสำอางที่เหมาะกับตัวเองไม่ได้ 
       รองพื้น

          การลองสีของรองพื้น สาว ๆ หลายคนมักเลือกสีที่พอดีกับผิวหน้า หรือขาวกว่าเล็กน้อย โดยจะลองกันที่บริเวณกราม แต่เราขอแนะนำให้คุณลองสีของรองพื้นที่บริเวณต่ำลงมาอีกนิดที่ส่วนของลำคอแทน ด้วยวิธีการนี้คุณจะได้สีของรองพื้นที่เข้ากับผิวที่สุด รับรองว่าไม่วอกไม่ลอยและสม่ำเสมอกับสีผิวทั้งกายด้วย (สีผิวที่คอจะเสมอกับสีผิวส่วนอื่น ๆ มากกว่า หากเปรียบเทียบกับผิวหน้าที่มักได้รับการดูแลเป็นพิเศษ จึงสว่างใสกว่าสีผิวส่วนอื่น ๆ)

      คอนซีลเลอร์

          ยามเลือกลองคอนซีลเลอร์ ให้เลือกมา 3 เฉด คือเฉดที่พอดีกับสีผิวของคุณ กับเฉดข้างเคียงที่อ่อนและเข้มกว่ากันนิดหน่อย โดยลองปาดดูที่บริเวณข้อมือด้านใน จากนั้นดูว่าเฉดไหนกลืนกับสีผิวคุณได้ดีที่สุด ทั้งนี้ คอนซีลเลอร์สองแบบที่คุ้มค่าน่าซื้อหา คือแบบเนื้อเหลวสีพีช/ชมพู ที่สามารถกลบรอยคล้ำใต้ดวงตาได้ดี และแบบเนื้อแข็งสีเหลือง (มักมาในรูปแบบครีมเนื้อแข็งหรือแป้งอัดแข็ง) ซึ่งใช้ปกปิดจุดด่างดำได้ดี แต่มักดูหนาเตอะ และลงไปจับตามร่องริ้วรอยได้ง่าย

      แป้งฝุ่น

          แป้งฝุ่นที่ดีสำหรับคุณผู้หญิงทุกคน คือแป้งฝุ่นประเภทโปร่งแสง (translucent) สามารถทดสอบได้โดยการปัดลงที่หลังมือ คุณจะพบว่ามันกลืนไปกับสีผิว และเหลือทิ้งไว้แต่สัมผัสเนียน ๆ และผิวที่ดูผ่องขึ้นเล็กน้อย

      บลัช

          ลองสีของบลัชโดยการทาที่หลังมือ หากบลัชเป็นเนื้อครีมสามารถใช้นิ้วปาดได้เลย แต่หากเป็นเนื้อฝุ่นให้ใช้แปรงในการลอง ทั้งนี้หากคุณลงรองพื้นก่อนปัดแก้มทุกครั้ง ก่อนไปถึงร้านหรือเคาน์เตอร์เครื่องสำอาง คุณก็ควรทารองพื้นที่หลังมือด้วย เนื่องจากการปัดบลัชลงบนผิวเปลือยและผิวที่มีรองพื้นนั้นให้ผลที่แตกต่างกัน

      ไฮไลท์

          หากเป็นไฮไลท์เนื้อฝุ่นให้ใช้แปรงกลมหัวใหญ่ในการลองปัดที่หลังมือ ส่วนไฮไลท์เนื้อครีมหรือเนื้อเหลวให้ใช้ปลายนิ้วปาดลงไปได้เลย ยกมือขึ้นทาบกับแสงไฟเพื่อดูว่าไฮไลท์ตัวนี้มีประกายที่ดูประหลาดเกินไปหรือไม่ หากมันดูไม่สวยบนมือของคุณ มันจะยิ่งดูไม่สวยขึ้นอีกเมื่ออยู่บนใบหน้า เพราะมีความมันจากใบหน้ามาผสมด้วย ทั้งนี้ไฮไลท์สีที่เข้ากับทุกสีผิวได้ดี คือสีแชมเปญ

      บรอนเซอร์

          หากต้องการบรอนเซอร์เพื่อสร้างประกายผิวแทนบ่มแดดที่ดูสุขภาพดี ให้เลือกบรอนเซอร์เนื้อแมทช์ อันจะให้ลุคที่ดูเป็นธรรมชาติที่สุด โดยให้ลองทาที่ท้องแขนและดูว่าคุณสามารถมองเห็นรอยกระหรือจุดด่างดำที่ผิวของคุณได้อยู่หรือไม่ บรอนเซอร์ที่ดีควรจะโปร่งแสงพอที่ทำให้คุณยังมองเห็นจุดกระหรือรอยด่างดำที่ท้องแขนของตัวเอง ซึ่งจะมีความเป็นธรรมชาติเมื่อทาลงไปบนผิวหน้า

      อายแชโดว์

          ใช้คอตตอนบัดในหรือแปรงทาตาหัวฟองน้ำในการลองสีอายแชโดว์ที่หลังมือรวมทั้งที่ข้อมือด้านในของคุณ  หลีกเลี่ยงการใช้ปลายนิ้วปาดเพื่อลองสี เพราะความมันจากปลายนิ้วคุณอาจทำให้สีผิดเพี้ยนไปจากความเป็นจริงได้ จากนั้นพลิกข้อมือเพื่อดูสีสันหรือประกายของอายแชโดว์จากหลาย ๆ องศา ว่ามันสวยถูกใจคุณหรือไม่ รวมทั้งลองเกลี่ยนสีดูเพื่อทดสอบความยาก-ง่าย ในการเบลนด์สีเมื่อนำไปใช้งานจริง

      อายไลน์เนอร์

          ทดสอบอายไลน์เนอร์โดยการเขียนลงที่หลังมือของคุณ รอสักครู่หนึ่งใช้เซ็ตตัว จากนั้นใช้ปลายนิ้วถูดู อายไลน์เนอร์ที่ดีควรจะดูเลือนลงเล็กน้อย หากยิ่งคุณถูก มันก็ยิ่งหลุดเลือนไปตามทิศทางนิ้ว นั่นจะทำให้ขอบตาคุณคล้ำดำไปด้วยสีของอายไลน์เนอร์เมื่อนำไปใช้งานจริง

      มาสคาร่า

          มาสคาร่าเป็นเครื่องสำอางค์ชิ้นต้องห้ามที่คุณไม่ควรลองเด็ดขาดเมื่อไปที่เคาน์เตอร์ขายเครื่องสำอาง เนื่องจากเสี่ยงต่อการนำเชื้อโรคต่าง ๆ มาสู่ดวงตาเป็นอย่างมาก แต่ให้คุณมองหามาสคาร่าที่มีแปรงปัดซึ่งปลายเรียวเล็กและซี่ละเอียดแทน มันจะช่วยให้มาสคาร่าไม่จับตัวเป็นก้อนและสามารถปัดได้ชิดโคนขนตามากที่สุด

      ลิปสติก

          ทดลองสีของลิปสติกโดยการปาดลงที่ปลายนิ้วมือ เพื่อให้สามารถมองเห็นสีที่ใกล้เคียงที่สุดเมื่อมันอยู่บนริมฝีปากของคุณได้ ไม่ใช่ลองสีที่หลังมืออย่างที่หลาย ๆ คนเข้าใจกัน

      ลิปกลอส

          ลองลิปกลอสด้วยวิธีเดียวกับการลองลิปสติก คือทาลงปลายนิ้วของคุณ จากนั้นจึงแตะปลายนิ้วสองนิ้วเข้าด้วยกัน (เปรียบเหมือนยามที่ริมฝีปากทั้งสองมาแตะกัน) ด้วยวิธีนี้คุณจะทราบได้ว่าลิปกลอสแท่งนั้นมีเนื้อที่เหนียวหนืด หรือเหลวเกินไปหรือไม่


เมาท์มอย ไปซื้อ คสอ.ตามเคาเตอร์


หัดเมคอัพดวงตาแบบ step by step

หัดเมคอัพดวงตาแบบ step by step 

บทความน่ารู้ เรื่องหัดเมคอัพดวงตาแบบ step by step 

ที่นี่คือศูนย์รวมบทความที่น่าสนใจและให้ความรู้จากทุกมุมโลก เพื่อเป็นแหล่งความรู้สำหรับคนไทยทุกคน
ดวงตาจัดเป็นองค์ประกอบสำคัญบนใบหน้า เป็นส่วนที่สื่อถึงอารมณ์ความรู้สึกของคุณได้เป็นอย่างดี ในการแต่งหน้าคุณผู้หญิงจึงควรจะพิถีพิถัน ใส่ใจในการเมคอัพดวงตา แต่งมาสวยก็ช่วยให้กล้าสบตาคนอื่น ๆ ด้วยความมั่นใจ แต่หากแต่งพลาดไป ก็อาจทำให้ทั้งใบหน้าดูจืดไปได้ เพื่อไม่ให้พลาดในการนี้ ลองมาดูวิธีเมคอัพดวงตาแบบฟูลออพชั่น ทีละขั้นตอนกันเลยค่ะ

1. ปรับสีผิวรอบดวงตา

          เริ่มต้นด้วยการปรับสีผิวรอบ ๆ ดวงตาให้สม่ำเสมอกัน โดยการใช้คอนซีลเลอร์ เพราะผู้หญิงหลาย ๆ คน มีปัญหาที่บริเวณใต้ดวงตาและเหนือยรอยพับเปลือกตา ที่คล้ำกว่าสีผิวส่วนอื่น ๆ ของใบหน้า ทำให้ดวงตารวมทั้งใบหน้าดูโทรมและอิดโรย เมื่อลงคอนซีลเลอร์ดีแล้ว ปัดแป้งฝุ่นตามเบา ๆ เพื่อให้คอนซีลเลอร์เซ็ตตัว

2. แต่งด้วยอายแชโดว์

          การทาอายแชโดว์สามารถทำได้หลายแบบหลายสไตล์ ขึ้นอยู่กับความชื่นชอบของแต่ละคน หากเป็นสไตล์ที่กำลังนิยมอยู่ตอนนี้ เห็นจะหนีไม่พ้นการแต่งแนวสโมคกี้อาย หรือว่านู้ดอาย อย่างไรก็ตาม ไม่ว่าจะทาอายแชโดว์สไตล์ไหน อย่าลืมหลักสำคัญที่ว่า ให้เลือกใช้สีเข้มที่ด้านข้างของเปลือกตา และตรงกลางจะต้องมีสีอ่อนกว่าเสมอ นอกจากนี้ยังต้องเบลนสีให้กลมกลืนกันดีด้วย

3. ปัดมาสคาร่าและเขียนขอบตาด้านใน

          ต้องการขนตาที่สวยเด้ง ให้เริ่มจากปัดขนตาด้วยมาสคาร่าแบบใส ซึ่งมาสคาร่าประเภทนี้จะช่วยให้ขนตาดูเส้นใหญ่และแข็งแรงขึ้น จากนั้นจึงปัดด้วยมาสคาร่าที่คุณต้องการใช้จริง ๆ ทั้งที่ขนตาบนและขนตาล่าง เมื่อมาสคาร่าแห้งดีแล้ว จึงเขียนขอบตาด้านใน โดยสีที่เลือกใช้ต้องแมทช์กับสีของอายไลน์เนอร์ที่จะใช้ในลำดับต่อไปด้วย

4. เขียนอายไลน์เนอร์

          ไอเท็มหนึ่งที่สาว ๆ ในยุคนี้ดูจะขาดเสียไม่ได้ในการแต่งหน้า ก็คืออายไลน์เนอร์ เลือกอายไลน์เนอร์ประเภทที่ใช้ถนัด และเขียนในสไตล์ที่ต้องการ และเพื่อความเนี้ยบของการเมคอัพดวงตา  ต้องไม่ลืมว่าเส้นอายไลน์เนอร์จะต้องอยู่ชิดแนวขนตามากที่สุดด้วย

5. แต่งขนคิ้ว

          เมื่อแต่งส่วนของดวงตาเสร็จเรียบร้อยแล้วก็มาปิดท้ายกันที่ขนคิ้ว ที่จะต้องกันมาแล้วให้ได้ทรงสวยงาม จะใช้ดินสอเขียนคิ้วเขียนโดยการวางมือทำมุม 45 องศากับคิ้ว เพื่อให้เส้นที่ลากลงไปดูนุ่มนวลเป็นธรรมชาติ หรือว่าจะใช้ที่เขียนคิ้วชนิดฝุ่นดูก็ได้ โดยมีหลักการใช้ให้เลือกสีที่เขียนคิ้วที่อ่อนกว่าสีผมของคุณเล็กน้อย อันจะช่วยให้ใบน้าสดใสขึ้น


แต่งตาสีสันด้วย Maybelline Color Tattoo อายแชโดว์


16 เคล็ดลับการเมคอัพสำหรับมือใหม่หัดแต่ง

16 เคล็ดลับการเมคอัพสำหรับมือใหม่หัดแต่ง 

 

บทความน่ารู้ เรื่อง16 เคล็ดลับการเมคอัพสำหรับมือใหม่หัดแต่ง

ที่นี่คือศูนย์รวมบทความที่น่าสนใจและให้ความรู้จากทุกมุมโลก เพื่อเป็นแหล่งความรู้สำหรับคนไทยทุกคน
ไม่ว่าคุณจะเป็นสาวแรกรุ่นหรือเป็นสาวมานานแล้ว แต่หากคุณเป็นคนหนึ่งที่ยังแต่งหน้าไม่เป็น นี่น่าจะเป็นตัวช่วยที่ดีสำหรับคุณได้ค่ะ เคล็ดลับการเมคอัพสำหรับมือใหม่หัดแต่ง ที่จะคอยเป็นไกด์ไลน์ให้คุณหยิบจับเครื่องสำอางและใช้มันแต่งหน้าได้อย่างมั่นใจมากยิ่งขึ้น และสนุกที่จะได้ทดลองมากขึ้น ก็ไก่ยังงามเพราะขน คนเราก็ต้องงามเพราะแต่งด้วยนะคะ

    1. ทำความรู้จักกับผิวตัวเอง
          สิ่งสำคัญที่จะทำให้คุณแต่งหน้าออกมาได้ประสบความสำเร็จ (ออกมาสวยและดูดีนั่นเอง) ก็คือต้องรู้จักกับสภาพผิวของตัวเองเสียก่อน รู้ว่าผิวของคุณเป็นแบบไหนแห้ง หรือมัน มีจุดด่างดำเยอะแค่ไหน ต้องการปกปิดมากเท่าไหร่ แพ้ง่ายหรือเปล่า สีผิวเฉดอะไร ฯลฯ สิ่งเหล่านี้จะช่วยให้คุณเลือกเครื่องสำอางได้ถูกต้องและเหมาะกับผิว รวมทั้งรู้วิธีการบำรุงผิวที่เหมาะสมกับตัวเองด้วย

    2. บำรุงเพิ่มความชุ่มชื้น

          เลือกบำรุงผิวด้วยมอยส์เจอไรเซอร์สูตรที่เหมาะสมกับสภาพผิวของคุณ ไม่ว่าจะเป็นผิวมัน ผิวแห้ง ผิวผสม หรือว่าผิวแพ้ง่าย

    3. ไพร์เมอร์

          เมื่อบำรุงผิวแล้วขั้นตอนต่อมาก็เป็นการใช้ไพรม์เมอร์ ซึ่งจะช่วยให้เครื่องสำอางที่จะแต่งลงไปหลังจากนี้ติดทนนาน สีสดไม่ลบเลือน ทำให้ใบหน้าของคุณดูสดใสได้ตลอดทั้งวัน

    4. เลือกเฉดสีที่พอดีกับผิว

          เมื่อได้ทำความรู้จักกับสภาพผิวและสีผิวของตัวเองไปเป็นอย่างดีแล้ว คราวนี้ก็มาถึงขั้นตอนของการเลือกซื้อและเลือกใช้เครื่องสำอาง โดยเฉพาะส่วนของรองพื้น คุณควรเลือกสีที่พอดีกับสีผิวจริง ๆ ของคุณ เพราะมันจะได้แนบเนียนสนิทเป็นธรรมชาติ ไม่ทำให้เห็นความต่างระหว่างผิวส่วนที่ทารองพื้นกับผิวเปลือย

    5. อย่าลืมคอ!

          หากไม่อยากให้ใครเดินเข้ามาทักว่าใช้รองพื้นเบอร์อะไร หน้าขาวลอยออกมาเชียว! ก็อย่าลืมเกลี่ยรองพื้นไม่ว่าจะเป็นเนื้อฝุ่นหรือว่าเนื้อครีมลงไปยังลำคอของคุณด้วย คราวนี้สีผิวจะได้สม่ำเสมอเรียบเนียน ไม่ต้องกลัวคนทักให้อายอีกแล้ว

    6. เนื้อฝุ่น กับ เนื้อครีม อย่างไหนดีกว่ากัน

          สาวนักแต่งหน้ามือใหม่คงจะสับสนว่าควรเลือกใช้รองพื้นและบลัชแบบไหนดี เพราะปัจจุบันมีทั้งแบบเนื้อฝุ่นและเนื้อครีมให้เลือกใช้ คำตอบก็คือไม่สามารถบอกได้ว่าอะไรดีกว่ากัน อยู่ที่คุณได้ลองแล้วถนัดใช้แบบไหนมากกว่านั่นเอง

    7. บรอนเซอร์

          นักเมคอัพมือใหม่อาจรู้สึกว่าการใช้บรอนเซอร์แต่งหน้าแล้วทำให้หน้าดูน่ากลัว ซึ่งนั่นน่าจะเป็นเพราะคุณหนักมือกับมันมากเกินไป สำหรับคนที่ยังหัดแต่งหน้าอยู่ ให้ลองใช้บรอนเซอร์เพียงเล็กน้อยปัดเบา ๆ ที่หน้าผาก โหนกแก้ม และสันจมูก รับรองว่าจะทำให้ใบหน้าดูมีมิติมากขึ้น และยังได้ผิวที่ดูบ่มแดดเล็ก ๆ ด้วย

    8. บลัช

          บลัช ดูเหมือนจะเป็นเครื่องสำอางชิ้นแรก ๆ ที่สาวหัดเมคอัพส่วนใหญ่มีในครอบครอง จงจำเอาไว้ว่าให้เลือกบลัชที่เข้ากันได้ดีกับสีผิวของคุณ และปัดแค่พอระเรื่อเท่านั้น อย่าหนักมือปัดจนแก้มแดงเถือกเป็นอันขาด

    9. มาสคาร่า

          ไม่มีสูตรตายตัวสำหรับการเลือกใช้มาสคาร่า คุณสามารถเลือกลองได้หลาย ๆ ยี่ห้อจนกว่าจะพบแบบที่พอใจ จำไว้แต่หลักการเลือกเพียงว่า ขนตาสั้นให้เลือกแบบเพิ่มความยาว แต่ถ้าขนตาบางให้เลือกแบบเพิ่มความหนา และอย่าลืมเลือกแบบที่กันน้ำได้ด้วยนะคะ

    10. อายไลน์เนอร์

          นี่เป็นเมคอัพไอเท็มอีกหนึ่งชิ้นที่จะเปลี่ยนลุคของคุณได้ง่าย ๆ และเหมาะกับสาวตาตี่ เพราะจะทำให้ตาดู "ตื่น" และสดใส ลองกรีดอายไลน์เนอร์หลาย ๆ แบบ ทั้งตวัดขึ้นแบบ cat eye ลากตรง ๆ หากไม่ตวัด หรือลากหนา ๆ ให้ตาดูดำเข้ม ฯลฯ แล้วคุณจะได้พบตัวเองในลุคที่หลากหลาย เก็บเป็นแรงบันดาลใจได้ในการแต่งหน้าสำหรับโอกาสต่าง ๆ

    11. เขียนคิ้ว

          แค่จัดคิ้วให้ได้รูปทรงก็ทำให้ดวงตาของคุณดูสดใสขึ้นได้มากแล้ว สาวคิ้วบางจะใช้ที่เขียนคิ้วแบบดินสอหรือแบบเนื้อฝุ่นเพื่อเติมความคมเข้มให้คิ้วก็ได้ ส่วนสาวคิ้วหนาลองกันคิ้วออกบ้างให้ได้รูปสวย เท่านี้ใบหน้าและดวงตาก็ดูสดใสขึ้นเยอะแล้ว

    12. ลิปสติก

          เพื่อเลือกลิปสติกสีที่ใช่สำหรับตัวคุณ ไม่มีอะไรดีไปกว่าการได้ลองทาและดูว่าสีไหนที่ขับผิวให้คุณดูเปล่งปลั่ง ทำให้ริมฝีปากคุณดูอิ่มเอิบมากที่สุด

    13. ลิปกลอส

          ถ้าคุณรู้สึกไม่ถูกใจสีสันสด ๆ และจัดจ้านจากลิปสติกแล้วล่ะก็ การใช้ลิปกลอสน่าจะเป็นตัวเลือกที่ดีกว่า มันให้ประกายของสีเคลือบฉาบที่เรียวปากพร้อมกับความแวววาวที่ทำให้ริมฝีปากดูอวบอิ่ม

    14. ลิปไลน์เนอร์

          ลิปไลน์เนอร์อาจไม่ใช่ไอเท็มแต่งหน้าที่จำเป็นต้องมี แต่มันก็เป็นตัวช่วยที่ดีที่จะทำให้ริมฝีปากบาง ที่จะช่วยทำให้ดูหนาขึ้นด้วยการเขียนขอบปากให้เห็นชัดเจน และยังช่วยเรื่องป้องกันลิปสติกเปรอะเลอะออกนอกขอบปากได้ดีอีกด้วย

    15. ชิมเมอร์

          ประกายแวววาวของชิมเมอร์ไม่ว่าจะจากบลัช อายแชโดว์ หรือว่าลิปกลอส ช่วยให้ผิวส่วนนั้นดูวาววิบวับ เลือกใช้ชิมเมอร์บาง ๆ สำหรับแต่งหน้าตอนกลางวัน และชิมเมอร์จัดสำหรับการแต่งหน้าไปงานกลางคืน นอกจากนี้ให้แต่งหน้าด้วยเครื่องสำอางที่มีชิมเมอร์แค่คราวละส่วนของใบหน้าเท่านั้น หากใส่ชิมเมอร์เข้าไปทั้งที่แก้ม ตา ปาก ฯลฯ พร้อม ๆ กัน หน้าของคุณคงจะดูตลกเกินไป

    16. ฟินิชชิ่ง พาวเดอร์

          ในขณะที่ไพรม์เมอร์ช่วยให้เครื่องสำอางบนใบหน้าติดทน การใช้ ฟินิชชิ่ง พาวเดอร์ ปัดทับทั่วใบหน้าหลังแต่งหน้าเสร็จ ก็เป็นเหมือนการรับประกันอีกชั้นหนึ่งว่าเครื่องสำอางที่แต่งไว้จะไม่ลบเลือนไปได้ง่าย ๆ แน่นอน ทั้งยังช่วยเรื่องดูดซับความมันได้เป็นอย่างดี


          เคล็ดลับทั้งหมดเหล่านี้เป็นคำแนะนำที่ดีสำหรับนักแต่งหน้ามือใหม่ แต่ถ้าอยากจะรู้ว่าสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับตัวคุณคืออะไร ก็ต้องได้ทดลองแต่งหน้าตัวเองในหลาย ๆ แบบดูนะคะ

ที่มา : http://guru.thaibizcenter.com/articlegroup.asp?grpid=37



โมเมสอนแต่งหน้าไปทำงาน




NANNIE MAKEOVER: สวยหวานไปเจอพ่อแม่แฟน (Natural Soft Look)

วันจันทร์ที่ 17 มิถุนายน พ.ศ. 2556

ซื้อครีมรองพื้นสีอ่อนเกินไป ทำไงดี

ซื้อครีมรองพื้นสีอ่อนเกินไป ทำไงดี


บทความน่ารู้ เรื่องซื้อครีมรองพื้นสีอ่อนเกินไป ทำไงดี

ที่นี่คือศูนย์รวมบทความที่น่าสนใจและให้ความรู้จากทุกมุมโลก เพื่อเป็นแหล่งความรู้สำหรับคนไทยทุกคน
          Q ฉันเพิ่งซื้อครีมของพื้นมาใหม่ แต่พอกลับถึงบ้านพบว่ามันมีสีอ่อนเกินไป ทำยังไงดีคะ ?

          A ไม่ต้องโยนทิ้งค่ะ! นี่คือวิธีแก้ไขง่าย ๆ ในการเพิ่มประโยชน์ให้เงินที่คุณเสียไปจะได้ไม่สูญเปล่า

        ทำเป็นไฮไลเตอร์ โดยทาลงบนสันจมูก โหนกแก้มด้านบน รอยหยักบนริมฝีปาก หรือทาลงบริเวณหัวตาก่อนทาอายแชโดว์ เพื่อเพิ่มความสว่างไสวขึ้นมา

        เพิ่มความเข้ม โดยผสมบรอนเซอร์ (จะเป็นแบบเจลหรือแป้งฝุ่นก็ได้) ลงไปเล็กน้อย หรือถ้าคุณมีหัวทางศิลปะหน่อย ก็ใช้คู่กับรองพื้นสีเข้มในการเฉดดิ้งและไฮไลท์ในการปรับโครงหน้าให้สวย

        เก็บไว้ใช้คราวหน้า เมื่อฤดูกาลเปลี่ยนไป สีผิวคนเราก็อาจมีสีเข้มหรืออ่อนลงได้ เวลาใช้ก็ควรทาด้วยฟองน้ำเปียก เพื่อช่วยลบเลือนความขาวให้เห็นน้อยลง

        ใช้แป้งฝุ่นช่วย ถ้ารองพื้นขวดนั้นมีโทนสีอ่อนกว่าสีผิวจริงของคุณนิดเดียว ก็ใช้ทาหน้าตามปกติ แล้วทาทับด้วยแป้งฝุ่นในโทนสีที่เข้มขึ้น หรือปัดบรอนเซอร์บริเวณโหนกแก้ม จมูก หน้าผาก และคางเป็นขั้นตอนสุดท้าย

ที่มา : http://guru.thaibizcenter.com/articlegroup.asp?grpid=37





     

" The Foundation " 2012 = ตอนที่ 1/2 KUNGINTER's Favorites